ขายอย่างมีจังหวะ

การซื้อขายหุ้นหน้ากระดานแต่ละวัน มีทั้งนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนรายย่อย หากแต่สัดส่วนใดจะมากกว่ากัน แต่ที่เป็นดัชนีชี้วัดเห็นจะหนีไม่พ้นเม็ดเงินจากต่างชาติที่หากมีการเทขายครั้งใด นักลงทุนต่างพากันขายตามเมื่อนั้น และบางครั้ง ต่างชาติมักจะมีสถิติในการเทขายหรือมีปัจจัยมาหนุนนำเสมอ ดังนั้น ครูเฒ่าอยากจะให้ดูสถิติการซื้อขายของต่างชาติอย่างคร่าวๆ เพื่อเป็นแนวทางในการลงทุนต่อไป ต่างชาติเอาหุ้นราคาที่ซื้อถูก ๆ ไว้แต่ต้นปี 2546 มาขายเรื่อย ๆ ลากราคาให้สูงแล้วเทขาย บางครั้งทั้งซื้อและขายทำเก็งกำไรอีกต่อหนึ่ง และที่สำคัญคือยืมหุ้นมาขายก่อนได้ ส่วนหุ้นจำนวนมากอีกจำนวนหนึ่งคือเขาซื้อหุ้นราคาจองไว้แล้วนำออกมาขายบางตัวกำไร 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์และที่สำคัญคือยืมหุ้นมาขายก่อนได้ ทั้งนี้หุ้นจำนวนนี้จะไปปรากฏในกระดานเฉพาะตอนขาย แต่ตอนซื้อไม่ปรากฏ ฉะนั้นทั้งสามรายการจึงดูเหมือนว่าต่างชาติขุดเอาหุ้นที่ไหนมาขายมากนัก แต่ความจริงเขาซื้อของถูกจึงขายของได้เงินมากกว่าต้นทุนมากมาย โกยกำไรกลับไปบ้าน ในระยะสั้นหุ้นคงจะต้องซึมแน่นอนด้วยเหตุของจิตวิทยาเกี่ยวกับไข้หวัดนกประการหนึ่ง ความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้ ความไม่แน่นอนในการควบรวมของธนาคาร การจัดการปัญหาในตลาดหุ้นยังไม่มีมาตรการกระจ่างชัด ปีที่แล้วนักลงทุนเก็บเกี่ยวได้กำไรจากการซื้อขายหุ้นเยอะ ปีนี้เพียงเดือนมกราคมเดือนเดียวกำไรแทบจะหมดหรือหมดแถมเข้าเนื้ออีกด้วย แมลงเม่าอย่างพวกเราเจ็บปวดกันอีกตามเคย เดือนต่อ ๆ ไปและภายในปีนี้เราจะต้องเล่นหุ้นควรอย่างระมัดระวัง ต้องศึกษาอาศัยเทคนิคการอ่านกราฟ เพื่อเราจะได้ซื้อของที่ราคาถูกแล้วขายได้ราคาแพง แล้วหยุดรอกลับมาซื้อใหม่ถ้าหุ้นตัวนั้นพื้นฐานดี นักลงทุนควรหยุดรอดูสถานการณ์ ถ้าหุ้นเริ่มเป็นขาขึ้นหรือดู SET เส้นกราฟเริ่มงอหัวขึ้นค่อยเข้าซื้อตอนนั้นจะปลอดภัยกว่า การทุบหุ้นให้ลง หรือ ชอร์ทเซล ครูเฒ่าฯ คิดว่าเป็นการปั่นหุ้นลักษณะหนึ่ง ซึ่งพวกนักลงทุนต่างขาติและกองทุนทำได้ รายย่อยแมลงเม่าอย่างพวกเราทำไม่ได้คิดๆดูก็ไม่ยุติธรรมนะครับ การชอร์ตเซล ไม่ต้องมีหุ้นในมือก็สามารถยืมหุ้นจากโบรกเกอร์ได้เพื่อนำไปขายก่อนแล้วซื้อคืนภายหลังทำกำไรเอาส่วนต่างไปกินพวกต่างชาติจะคอยจังหวะดูว่าถึงเวลาเหมาะๆ หรือยัง เช่นหุ้นราคาขึ้นมาสูงมากดัชนี 800 จุดราคาหุ้นส่วนใหญ่ก็ราคาสูงๆทำกำไรยากไม่มีใครลากทำราคาต่อยอดตอนนี้แหละเหมาะแล้ว ก็จะเริ่มปล่อยข่าวร้าย จริงบ้างเท็จบ้างขณะเดียวกันนี้ ก็ทำการชอร์ตเซลไปด้วย จากนั้นข่าวลือก็จะกระพือออกไปปากต่อปาก ทั้งหนังสือพิมพ์ ทีวี ไม่เว้นแม้แต่ในอินเตอร์เน็ตตามเว็บต่างๆ ดูตัวอย่างไข้หวัดนก เริ่มมีข่าวแว่วๆมาตั้งแต่ 13 มกราคม 2547 วันนี้เขาลาก set ไปแตะ 802 จุด และซื้อขายถึง 63,011.93 ล้านบาทจากนั้นวันต่อๆมาเขาก็ลากแล้วทุบๆ set ก็ไหลลงเรื่อยๆ ราคาหุ้นก็ ไหลลงๆ จากวันศุกร์ที่ 23 มกราคม ที่รัฐบาลประกาศ ว่ามีโรคไข้นกระบาดจนถึงวันนี้ ศุกร์ 30 มกราคม set เหลือ 698.90 จุด ลบ 15 จุด หลุดแนวรับสำคัญ 700 จุด ซื้อขาย 4,374,905 บาท FOREIGN -863.45 INS TITUTION -886.21 CUSTOMER +1749.66 ข่าวจริงไข้หวัดนกแพร่ระบาดไปยังไก่และติดไปสู่คนยังควบคุมไม่ได้ชัดเจน ประจวบเหมาะกับการทุบหุ้น ทำการชอร์ตเซล ให้ราคาไหลลง ของต่างชาติ เกิดการตกใจไม่มีเหตุผลมีแต่อารมณ์จึงเกิดการเทขายหุ้นของรายย่อยผสมโรง แต่ที่สุดรายย่อยจำนวนหนึ่งก็เข้าซื้อ การทำเช่านี้เข้าทางเขาละเป็นโอกาสที่เขาจะทำ การชอร์ตเซลต่ออีก หุ้นยิ่งลงมากยิ่งกำไรมาก จนกว่าราคาจะต่ำและเป็นเวลาที่เหมาะสม เขาก็จะซื้อหุ้นคืนให้ โบรกเกอร์ เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ทำให้เกิดความเสียหายอย่างประมาณค่ามิได้ของประเทศไทย

ลองเริ่มใช้วิชาการวิเคราะห์หลักทรัพย์

ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2549 เป็นต้นมา ผมแทบไม่ได้ใช้ความรู้ในการวิเคราะห์หุ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นทางการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์เชิงเทคนิค เพราะปัจจัยที่เข้ามากระทบเป็นปัจจัยที่คาดการณ์ยาก เป็นการตัดสินใจของคนเพียงกลุ่มเดียว ไม่มีทางคาดการณ์ได้ วันนี้เป็นวันแรกที่ทดลองเริ่มใช้ความรู้ เนื่องจากเห็นว่าตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะปรกติ ทั้งในด้านดัชนีราคา และปริมาณการซื้อขาย และเราเองก็คงจะเริ่มเคยชินกับข่าวลบกันบ้างแล้ว ในขณะนี้เรามีตลาดหุ้นที่มี Market P/E ที่ 7.48 มี Price per book ของทั้งตลาดที่ 1.52 เท่า และมีผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Market yield ที่ 4.59% มีมูลค่าตลาดรวม หรือ Market Cop. จำนวน 4,674,000 ล้านบาท ถือว่าตลาดหุ้นไทย มีราคาถูกที่สุดในโลก เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว เราก็พูดอย่างนี้ แปลว่า คำว่า ถูก ไม่สำคัญ เพราะมีถูกกว่า ปัจจัยในการเข้าซื้อหุ้นของนักลงทุนไม่เกี่ยวกับคำว่า ถูก และถ้ายิ่งนำเอากราฟราคาของตลาดหุ้นใกล้บ้านเรามาดู ต้องบอกว่าคนละเรื่อง เช่นที่อินโดนีเซีย ขึ้นแล้วขึ้นอีก ช่วงนี้อยู่ในช่วงการปรับฐาน สำหรับแนวโน้มข้างหน้า ในมุมมองทางด้านปัจจัยพื้นฐาน ถามว่ากำไรสุทธิที่จะประกาศ สำหรับปี 2549 ทั้งปี ที่กำลังจะทยอยออกมาในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ตัวเลขทั้งกลุ่มธนาคารและพลังงาน ยังมีตัวเลขที่ดี และอาจจะช่วยปลุกตลาดได้บ้าง หุ้นในกลุ่มธนาคารและพลังงาน เมื่อวานก็แสดงความแข็งแกร่งให้เห็นแล้วว่า พวกเขาพร้อมจะเป็นตัวนำตลาด ที่จะพาตลาดขึ้นในรอบต่อไป มีหรือเปล่ายังไม่ค่อยแน่ใจ เอาเป็นว่าถ้ามีก็แล้วกัน เมื่อวานผมเห็นหุ้นที่เป็นตัวนำตลาดอยู่ 5 ตัว ซึ่งถ้าเกิดภาวะ Panic Sale ในครั้งต่อไป ก็จะเป็นตัวเป้าหมายในการซื้อหุ้น หุ้น 5 ตัวที่ว่า คือ BBL, BAY, SCB, PTT และ PHATRA ดังนั้น ให้ถือว่า จากนี้ไปถ้าตลาดลงแรง ๆ ให้เก็บหุ้น 5 ตัวนี้ ส่วนราคาดูเอาเองในตลาด เพราะการลดลงในแต่ละรอบต่อจากนี้ จะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเท่านั้น ต้องใช้ฝีมือกับดวงจึงจะได้ราคาที่ดี เทคนิเคิลช่วยไม่ได้ สำหรับกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 ผมคิดของผมเองนะ ว่าทั้งกลุ่มธนาคารและพลังงาน ก็ยังสามารถคงตัวเลขใกล้เคียงกับปี 2549 แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งราคาหุ้นตอนนี้ก็ไม่แพงเกินไป ที่จะเก็บเอาเงินปันผล ในส่วนภาพรวมของเศรษฐกิจ ตัวเลขเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับไม่เกิน 4% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลงในขณะนี้ อาจจะช่วยให้เงินเฟ้อโดยเฉลี่ยในปีนี้ต่ำกว่า 3% ก็ได้ นั่นหมายถึง อัตราดอกเบี้ยในปี 2550 ถ้าไม่ลดลงก็จะทรงตัว ถือเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง เหลือประเด็นเดียว ที่จะรบกวนตลาดหุ้น ก็คือ ปัจจัยทางการเมือง ส่วนค่าเงินบาท ผมคิดว่า ขณะนี้ ธปท. สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เราจะไม่ได้ยินข่าวการโจมตีค่าเงินบาทไปอีกนาน การเมือง ผมกำลังกังวลเล็กน้อย ข่าวความวุ่นวายที่จะค่อย ๆ เริ่มก่อตัวขึ้น ยังสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดปี จนกว่ารัฐธรรมนูญจะร่างเสร็จ และมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่ก็ยังดูไม่ชัดเจน ดูไกลๆ ไม่เห็น ดูใกล้ก็เห็นว่า คมช. พยายามควบคุมสถานการณ์ให้ได้ และถ้าเป็นอย่างนั้นได้ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ เราก็จะคงเริ่มสบายใจ แต่ตอนนี้ อย่าเพิ่งวางใจ ผมสมมุตินะว่า ถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่สร้างความไม่สงบขึ้นอีกแล้ว Set Index จะเคลื่อนที่ไปอย่างไร ผมใช้การวิเคราะห์เชิงเทคนิคคาดการณ์ได้ว่า Set Index มีแนวต้านที่ 640-645 จุด ในสัปดาห์หน้า Set Index อาจจะถอยลงมาแถว 620-625 จุด และ Sideway สักพักหนึ่ง จากนั้นก็จะค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปที่ 670 จุด ทำเป็นรูป Head and Shoulders โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ดูข้อมูล Update ภาพ Set Index ทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้ที่ Nattawat.com

รวยด้วยหุ้น...ทำอย่างไร (2)

ว่าด้วยการเล่นหุ้นทำอย่างไรให้รวยนั้น มีหลายปัจจัยให้ได้ศึกษา ครูเฒ่าจึงอยากจะหยิบยกคำถาม-ตอบของลูกศิษย์ที่มากด้วยประสบการณ์ของครูเฒ่า มาให้ได้อ่านกัน เผื่อคำถามใดจะโดนใจนักลงทุนบ้าง เพราะการเล่นหุ้นหากเก็บและจดสถิติของการเล่นหุ้น อาจทำให้มีสิทธิรวยด้วยหุ้นได้ หากแต่เล่นแบบเหวี่ยงแห ไม่มีจด ไม่มีเก็บสถิติการขึ้นลงของหุ้นไว้บ้าง ก็อาจจะทำให้จนด้วยหุ้นได้เช่นกัน ดังนั้น ครูเฒ่าอยากให้ได้อ่านเพื่อได้ศึกษากันเพื่อเป็นการปูพื้นการเล่นหุ้น เผื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนบ้างไม่มากก็น้อย ชัย… เมื่อครู่พูดเลยเถิดไปถึงวัน "ทุบหุ้นเอาของ" เลยลืมพูดเรื่องหุ้นไปเลย หกร้อยจุดไม่หลุดคราวนี้ หุ้นไทยคงไม่ได้เห็นห้าร้อยจุดไปอีกนาน เมื่อวันศุกร์เคลียร์ของไปส่วนหนึ่ง เพื่อเตรียมขุนศึกไว้รออัดเจ้า โบรกอันดับหนึ่งอยู่เต็มอัตราศึก (ได้ขุนศึกมานิดหน่อยไม่กี่พัน พอยั่วน้ำโห เอ๊ยน้ำลาย.... แหมพูดผิดพูดถูก) เขาบอกว่าตลาดกระทิงต้องมีหุ้นจองไว้ติดพอร์ตเสมอๆ ช่วงนี้น่าหาหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูงๆ เก็บถือไว้ข้ามปี เรือแขก เรือตู้ เรือสำราญก็มาไกลอักโข ปล่อยคนที่มีเขาเสพสุขไปเถิด หลังจบศึกกับเจ้าโบรกอันดับหนึ่ง จะกลับมาคิดบัญชีกับหุ้นรับเหมาก่อสร้างต่อ หลังจากเจ้าโบรกเชียร์ขาย ก็เลยได้ของดีลดราคามาขายที่ไฮ เอิ๊กๆ ขอบคุณเจ้าโบรก อืมม์ไม่ใช่สิ ต้องขอบคุณนักวิเคราะห์ของเจ้าโบรก อันดับหนึ่งแห่งนี้ ครูเฒ่าเกาะช้าง ดีใจจริงๆที่เราได้พบกันอีกในโลกสมัยใหม่ไร้พรมแดน สักวันหนึ่งเราคงได้พบกันจริงๆ เรามความนึกคิดคล้ายกัน เห็นความไม่เป็นธรรมระหว่างผู้เหนือกว่าเอาเปรียบผู้ด้อยกว่าซึ่งไม่มีโอกาสสู้ได้เลย ไม่ใช่เขาโง่ตรงข้ามเขาฉลาด มิเช่นนั้นเขาจะใช้อุปกรณ์สมัยใหม่ไม่ได้ แต่เขาไม่รู้และขาดกำลังต่างๆเสริมอำนาจเท่านั้นโบรกแห่งนั้นเขาตั้งเฉพาะกิจเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มหนึ่งที่จะดูด เงินจากนักเล่นหุ้นรายย่อยและจากตลาดหุ้นซึ่งจะกล่าวถึงตอนต่อไปความจริงขอเปิดเผยอย่างหนึ่งคือ ครูเฒ่าเขียนหนังสือ เล่นหุ้นให้รวยทำอย่างไร? ไว้ออกเผยแพร่ แต่เห็นจะไม่ทันการณ์ เพราะเห็นน้องๆเข้าตลาดมาใหม่ด้วยอารมณ์อยากเล่นหุ้นหวังกำไร จะพลาดผิดหวัง เสียใจ มองโลกเศร้าหมอง จึงตัดสินใจอาศัย Taladhoon นำเรื่องราวในหนังสือออกมาเขียนก่อน ซึ่งขอขอบคุณเจ้าของเว็บและ web master ณ ที่นี้ด้วยเชื่อฝีมือครับที่จะเล่นโบรกฯที่เข้าใหม่ ครูเฒ่าเล่นด้วยนะครับ สนุกๆเบาะๆพอนะครับ วันนั้นเป็นวันวัดฝีมือเซียน เสร็จศึกอย่าลืมผันเงินทยอยซื้อหุ้นของดีราคาถูกนะครับ แล้วก็ลองดูๆ ถังสีของคุณทั้งแม่และลูกตัวที่สองด้วยนะ น้อง ผมเข้ามาเล่นหุ้นไม่นาน ขอคุณครูเฒ่าช่วยอธิบายการดูกราฟที่ว่า นิดหนึ่ง 1. ดูกราฟบันไดขึ้น 3 ขั้น แนวโน้มขาขึ้น(ขาย)2.ดูกราฟบันไดลง 3 ขั้น แนวโน้มขาลง(ซื้อ)3.เส้นตัดบันไดยอดเป็นแนวต้าน(ขาย)4. เส้นตัดบันไดฐานเป็นแนวรับ(ซื้อ) ขอขอบคุณมากๆที่ให้ความรู้แก่มือใหม่อย่างผมครูเฒ่าเกาะช้าง คุณ น้องพยายามอ่าน เล่นหุ้นให้รวยทำอย่างไร? ตั้งแต่ต้นจนจบสัก 3 เที่ยว นะครับ มั่นใจว่าจะได้ความรู้เพิ่มเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจขอตอบซ้ำสั้นๆดังนี้1. กราฟบันไดขึ้นเปรียบเหมือนคนถีบจักรยานขึ้นเขา 3 เขา2. กราฟบันไดลงเปรียบเหมือนคนถีบจักรยานลงเขา 3 เขา3. ใช้อ่านความจะเป็นไปได้ในระยะ 1 วัน 10, 25, 75, 200 วัน Taladhoon.com มีความรู้และมีอะไรๆ พร้อมที่จะช่วยเราในการซื้อหรือขายหุ้นได้เป็นอย่างดี พยายามอ่านให้หมด ทุกหนเป็นพื้นฐานความรู้ การขับเรือในทะเลต้องมีเข็มทิศ ต้องอาศัยการอ่านแผนที่เส้นทางเดินเรือให้แม่นยำ ต้องถือพังงาขับเคลื่อนด้วยความชำนาญ ถึงจะไม่ชนหินโสโครกให้เรือล่ม ฉันใดการเล่นหุ้นก็ฉันนั้นจะซื้อขายหุ้นก็ให้ดูกราฟอ่านกราฟเป็นทิศทางส่วนหนึ่งซึ่งช่วยเราได้มากจะได้ซื้อหุ้นได้ในราคาถูกและขายได้ในราคาแพง

รวยด้วยหุ้น...ทำอย่างไร (1)

เรากลับมาแล้วหาข้อมูลต่างๆ ทำให้เป็นห่วงทุกคน ที่ติดหุ้นขอให้ถือไว้ หุ้นต้องขึ้นไป 700จุดได้ คนทีเก่งหน่อยก็ทำ short against port คือเอาหุ้นที่มีอยู่ขายไปก่อนให้ได้ราคาสูงกว่า 2 ,3 step แล้วรับกลับ ตอนนี้อย่าให้หุ้นหลุดมือ การลงทุนซื้อหุ้น ข้อมูลดีมีใจมั่นคง หุ้นขึ้งลงปลงใจได้ หุ้นลงมีเงินช้อนซื้อไว้หุ้นขึ้นกำไรขายไวไวเอย การลงทุนซื้อหุ้น มีหลักดังนี้ 1. เงินซื้อหุ้นต้องเป็นเงินเหลือใช้ห้ามกู้เงินมาเด็ดขาด2. แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน 2.1 ส่วนที่หนึ่งทยอยซื้อหุ้นขาลง 2.2 ส่วนที่สองสำรองไว้ซื้อหุ้นเวลาตกมากๆเป็นขาลงจริงๆ 2.3 ส่วนที่สามไว้ซื้อหุ้นเมื่อเกิดวิกฤตหุ้นตกมากๆ ข้อมูลหุ้น มีหลักในการดู คือ 1. ดู P/E คือราคาหุ้นปัจจุบันหารด้วยกำไร2. ดู DIVIDEND YIELD ว่าจ่ายปันผลไหม และ 3. PRICE/BOOK VALUE (P/BV) คือราคาหุ้นปัจจุบันหารด้วยมูลค่าตาม บัญชี ส่วนการดูเทคนิค ดูกราฟบันไดขึ้น 3 ขั้น แนวโน้มขาขึ้น(ขาย) ดูกราฟบันไดลง 3 ขั้น แนวโน้มขาลง(ซื้อ)เส้นตัดบันยอดเป็นแนวต้าน(ขาย) เส้นตัดบันไดฐานเป็นแนวรับ(ซื้อ) ทั้งนี้ต้องดูปริมาณซื้อขายด้วย (ราคาหุ้นปั่นได้ระวังด้วย เพราะจะติดยอดดอย) การเมืองและเศรษฐกิจ กองทุนต่างชาติ กองทุน ก บ ข กองทุนเอเซีย โบรกเกอร์ รายใหญ่ของรายย่อย(นักปันหุ้น) ที่เอากระทู้จากภาค 1 มาลงซ้ำเพื่อเตือนความจำเป็นหลักๆ สำหรับเป็นแนวทางไปสู่ความสำเร็จในการเล่นหุ้นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง set จะอยู่ตรงไหนก็ได้ ส่วนใหญ่ดูกราฟมหภาพ 4 เดือน บันไดขึ้น 4 ขั้น บางตัวสูงกว่าค่าเฉลี่ย 3 เท่า พวกเราเล่นกันเยอะตามแรงเชียร์ ใครติดสูงขายไม่ลง คุณเป็นเซียนด้วยความสามารถของคุณเอง กรองข้อมูลตัดสินใจครั้งแรกถูกทุกที คราวนี้ก็น่าจะคิดถูกอีกนะครับ กลุ่มอื่นๆ ดีๆ อีกหลายตัวลงมาให้ซื้อแล้ว ทยอยซื้อนะครับ ใจตอนนี้เหมือนตอน 600 จุดนะครับ ตัดสินใจเหมือนตอนนั้นครับ เส้น 10 วันตัดเส้น 25 วัน เป็นจุดแห่งความลังใจเป็นครั้งที่ 3 แต่อนาคต 75 วันยังดีอยู่